เปิดผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีน Q3/68​ 

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีน ประจำไตรมาส 3/2568​ ผู้ตอบแบบสำรวจ ร้อยละ 52 คาดว่า GDP ของไทยในปีนี้ ขยายตัว 1.5-1.8 พร้อมเสนอแนะรัฐบาลเร่งดำเนินการสองมาตรการสำคัญ คือ​เร่งนำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อบรรเทาสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มจะชะลอตัวและมาตรการหาตลาดใหม่เพื่อการส่งออก

1000154571

นายณรงค์ศักดิ์  พุทธพรมงคล  ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน  เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีนประจำไตรมาสที่สาม ปี 2568 ซึ่งได้มีการสำรวจระหว่างวันที่  15 ถึง 20 มิถุนายน 2568 ผู้ให้ข้อมูลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีนประกอบด้วย (1) ประธานคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการหอการค้าไทยจีน (2) ประธานและกรรมการสมาชิกสมาคมต่างๆของสหพันธ์หอการค้าไทยจีน และ (3) กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทยจีน รวมทั้งสิ้น จำนวน 480 คน 

ประธานาธิบดีทรัมป์ ในประกาศขึ้นอัตราภาษีศุลกากรในวันที่ 2 เมษายน 2568 กับทุกประเทศทั่วโลกและมีเป้าหมายหลักคือจีน ได้สร้างความตระหนกให้กับผู้ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา และโอกาสที่สินค้าจีนที่ส่งไปขายสหรัฐอเมริกาไม่ได้นั้นอาจจะถูกระบายมาขายที่ไทย แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเปิดช่วงเวลาการเจรจาให้กับประเทศคู่ค้าเป็นระยะเวลา 90 วัน จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ขณะที่การเก็บข้อมูลสำรวจดัชนีในครั้งนี้อยู่ในช่วงก่อนที่จะครบ 90 วัน ซึ่งโอกาสที่การเจรจาจะสิ้นสุดกับทุกคู่ประเทศไม่น่าเป็นไปได้ 

1000154572

จากการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเปรียบเทียบผลกระทบต่อการค้าขาย ระหว่างมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ และสถานการณ์วิกฤตการณ์โรคระบาด โควิด-19 ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 39 มีความเห็นว่ามาตรการของประธานาธิบดีทรัมป์มีผลกระทบรุนแรงมากกว่าช่วงโควิด-19 พอสมควร แต่ร้อยละ 26 มีความเห็นว่ามาตรการภาษีดักล่าวมีผลกระทบรุนแรงมากกว่าช่วงโควิด-19 เป็นอย่างมาก

กล่าวได้ว่าผลกระทบต่อการค้าขายจากนโยบายทรัมป์จะลำบากมากกว่าช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 การสำรวจยังได้สอบถามต่อว่าธุรกิจของสมาชิกหอการค้าไทยจีนและสหพันธ์หอการค้าไทยจีนนั้นได้รับผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์มากหรือน้อยเพียงใด ผลการสำรวจพบว่าร้อยละ 45 ลงความเห็นว่าได้มีผลกระทบเกิดขึ้นแล้วและทำให้การค้าขายชะลอตัวมาก ในขณะที่ร้อยละ 36 ให้ความเห็นว่ามีผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วต่อการค้าขายชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้มีร้อยละ 8 ที่ให้ความเห็นว่าเป็นโอกาสทำให้การค้าขายนั้นดีขึ้น

1000154573

ประธานาธิบดีทรัมป์เดิม ได้ประกาศว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรร้อยละ 37 และร้อยละ 145 กับไทยและจีนตามลำดับ หลังจากมีการเจรจาในเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 90 วัน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่าจะเก็บภาษีจากจีนร้อยละ 55 และจีนเก็บภาษีจากสหรัฐอเมริการ้อยละ 10 ในขณะที่ไทยนั้นอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ผลการสำรวจความคิดเห็นของการเจรจามีดังนี้ ร้อยละ 22 คาดว่าอัตราภาษีจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราที่น้อยกว่าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศไว้เบี้องต้นตั้งแต่เมษายน 2568  เนื่องมาจากแรงกดดันจากผู้บริโภคและผู้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 15 ของผู้ตอบแบบสำรวจให้ความเห็นว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนตามมาตราที่ได้ประกาศไปนั้นจะเป็นข้อตกลงที่สิ้นสุดแล้ว และผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 14 ลงความเห็นว่าการเจรจากับประเทศส่วนใหญ่จะยืดเยื้อและยาวนานกว่า 90 วันและต้องขยายระยะเวลาการเจรจาออกไปอีก (ในวันที่ 3 กรกฎาคมประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่ามีข้อตกลงที่เป็นที่สิ้นสุดกับเวียดนาม โดยเก็บภาษีศุลกากรจากเวียดนามร้อยละ 20 ในขณะที่เวียดนามจะไม่เก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา)

จาก 5 มาตรการที่คาดว่าไทยจะไปเสนอเพื่อเจรจากับสหรัฐอเมริกานั้น ผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญ กับ 3 มาตรการที่จะมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับเศรษฐกิจไทย กล่าวคือ การลดภาษีศุลกากรและมาตรการที่ไม่ใช่ศุลกากรพร้อมกับการเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทยให้มีการนำเข้าอาทิ ถั่วเหลือง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มาเป็นลำดับแรก และลำดับรองอีกคือ การบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ของประเทศที่สามเพื่อส่งออกจากไทยไปยังสหรัฐอเมริกา และการเพิ่มการนำเข้าสินค้าพลังงาน เครื่องบิน และส่วนประกอบและอุปกรณ์ 

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *