การจัดแสดงระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคม 2564 ในจังหวัดชลบุรี “โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งแห่งเอเชีย (TIA)2021” เป็นนิทรรศการระดับนานาชาติครั้งแรกที่จัดแสดงในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นไปตามความคิดริเริ่มในการพัฒนาภูมิภาคของรัฐบาลโดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากอนุสัญญาประเทศไทย & สำนักงานนิทรรศการ (สสปน.).TIA 2021 จะเป็นเจ้าภาพจัดหาซัพพลายเออร์เทคโนโลยีบริการและโซลูชั่นระหว่างประเทศสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของภูมิภาคอย่างรวดเร็วของ EEC ตั้งแต่ถนนท่าเรือสนามบินและทางรถไฟไปจนถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์บริการและการบำรุงรักษาที่สนับสนุนการขนส่งและโรงงานที่เกี่ยวข้อง
นายเดวิด เอ๊ทคิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้จัดงาน Transport Infrastructure Asia 2021 ใน EEC เปิดเผยว่า เป็นงานแสดงเทคโนโลยีด้านการขนส่ง ทั้งทางถนน ทางเรือ รถไฟ ระบบราง และด้านโลจิสติกส์ งานจัดแสดงระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคม 2564 ในจังหวัดชลบุรีโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งแห่งเอเชีย (TIA)2021เป็นนิทรรศการระดับนานาชาติครั้งแรกที่จัดแสดงในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นไปตามความคิดริเริ่มในการพัฒนาภูมิภาคของรัฐบาลโดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากอนุสัญญาประเทศไทย & สำนักงานนิทรรศการ (สสปน.) TIA 2021 จะเป็นเจ้าภาพจัดหาซัพพลายเออร์เทคโนโลยีบริการและโซลูชั่นระหว่างประเทศสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของภูมิภาคอย่างรวดเร็วของ EEC ตั้งแต่ถนนท่าเรือสนามบินและทางรถไฟไปจนถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ บริการและการบำรุงรักษาที่สนับสนุนการขนส่งและโรงงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนิทรรศการระดับนานาชาติแล้วยังเป็นการประชุมสนับสนุนภายใต้หัวข้อ“ Thailand’s EEC (Eastern Economic Corridor) ประตูสู่อาเซียน” โปรแกรม 2 วันนี้จะต้อนรับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่นำเสนอกรณีศึกษาการวางแผนโครงการและโซลูชั่นประยุกต์สำหรับการขยายตัวที่ทะเยอทะยานของ Eastern Economic Corridorระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยได้ดึงดูดการขอลงทุนรวมกว่า 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดย 59% ของโครงการลงทุนทั้งหมดที่บีโอไอได้รับมาจากโครงการใน EEC ประตูสู่เอเชียของประเทศไทยครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดทางภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทราชลบุรีและระยอง แผนพัฒนา EEC ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นเศรษฐกิจฐานมูลค่าโดยมีการเชื่อมโยงที่กว้างขวางและมีประสิทธิภาพไปยังอาเซียนและโลกและในกรณีที่การใช้ก๊าซอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนานี้จะมีการกล่าวถึงหัวข้อต่างๆอย่างครอบคลุมในการประชุม .
โครงการ EEC ประกอบด้วยแผนอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 32.93 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งรวมถึงเมืองสนามบินภาคตะวันออก“ Aerotropolis” (EECa), Digital Park Thailand (EECd), High Speed Rail Ribbon Sprawl (EECh) เชื่อม 3 สนามบินหลัก, ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) และ Medical Hub (EECmd) รวมทั้งการขยายท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบังTIA 2021 ยินดีรับการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่าน TCEB ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องโดยเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนโครงการที่กว้างขึ้นสำหรับ EEC นิทรรศการและการประชุมจัดโดย Asian Exhibition Services (AES) การขนส่งโครงสร้างพื้นฐานและผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงอุตสาหกรรมที่มีชื่อการแสดงที่เกี่ยวข้องในระบบรางยานยนต์การผลิตและการก่อสร้าง
นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนในแคมเปญ Re-Energizing Exhibition เป็นการส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ“New Norm” นอกจากนี้งาน Transport Infrastructure Asia 2020 ยังอยู่ภายใต้การสนับสนุนของแผนแม่บท “ไทยแลนด์ ล็อก – อิน อีเวนท์” ซึ่งแผนแม่บทฯดังกล่าวให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การขับเคลื่อน และส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติในกลุ่มโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน (Logistics & Infrastructure หรือ ล็อก-อิน)
ผศ.ดร.เทอดเกียรติ ลิมปิทีปราการ ผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมระบบราง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวว่า ปัจจุบันตนเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านระบบรางของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) (ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ภายใต้คณะกรรมการประสานงานพัฒนาบุคลากร ที่มีชื่อย่อว่า ..EEC-HDC..(คณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลการ-Eastern Economic Corridor Human Development Center-EEC-HDC) ซึ่งคณะทำงานนี้ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นหลายคณะเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในอีอีซี โดยเฉพาะการพัฒนากำลังคน
สำหรับคณะหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นมามีชื่อว่า คณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนเครือข่ายศูนย์ระบบรางในพื้นที่อีอีซี โดยมีตนเป็นเลขานุการ ซึ่งวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อผลักดันการพัฒนาบุคลากรที่ตอบรับนักลงทุนจากต่างประเทศและให้มีความพร้อมที่จะยกระดับศักยภาพของพื้นที่ รวมไปถึงพัฒนาบุคลากรที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่วางไว้ตาม 12 เทคโนโลยีเป้าหมายรัฐบาล
ส่วนความคืบหน้าของคณะทำงานด้านพัฒนาบุคลากร ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์เครือข่ายด้านการพัฒนาบุคลากรขึ้นมาหลายศูนย์ อาทิ ศูนย์ด้านหุ่นยนต์ ศูนย์ยานยนต์สมัยใหม่ ศูนย์ด้านการท่องเที่ยว ศูนย์ระบบอัตโนมัติ(Automation) และศูนย์ระบบรางที่มีผศ.ดร.เทอดเกียรติ เป็นเลขานุการ โดยเป็นผู้ประสานงานหน่วยงานทั้งสถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนากำลังคนเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในอันที่จะยกระดับประเทศ ตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ผศ.ดร.เทอดเกียรติ กล่าวต่อว่า กิจกรรมงานนิทรรศการ”Transport Infrastructure Asia 2021″ (TIA) ใน EEC ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคม 2564 ในจังหวัดชลบุรี จะเป็นประโยชน์ในการดึงนักลงทุนหรือเจ้าของเทคโนโลยีเข้ามา เปิดโอกาสให้คนไทยได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพขึ้น โดยเป้าหมายการลงทุนจากต่างประเทศในพื้นที่อีอีซีอยู่ที่ 200,000 ล้านต่อปี ซึ่งในช่วงก่อนโควิด-19 เราทำได้ดี
“ภาพรวมของงาน “Transport Infrastructure Asia 2021” (TIA) คาดว่าจะประกอบด้วยการขนส่งทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ รถ เรือ ราง เครื่องบิน เพราะอีอีซีมีเป้าหมายยกระดับอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ นี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาให้เห็นภาพว่า เราจะพัฒนาร่วมกันอย่างไร เราอยากจะได้การลงทุนประเภทไหน โดยเฉพาะการสร้างเทคโนโลยีบางอย่างทั้งด้านอากาศยานหรือระบบรางที่เรากำลังผลักดันอยู่ในคณะทำงานของระบบราง ซึ่งต้องขอบคุณทางอีอีซีที่อนุมัติงบประมาณมาผ่านสำนักงานงบประมาณ เช่น จัดสรรงบประมาณให้กับทางมหาวิทยาลัยเพื่อจัดซื้อจัดจ้างด้านวัสดุครุภัณฑ์เพื่อใช้พัฒนากำลังคน ทั้งคนภายในมหาวิทยาลัยและข้างนอกที่ต้องการยกระดับทักษะความรู้ด้านระบบราง
คาดว่า จะได้รับความสนใจเข้าชมงานทั้งภายในประเทศและจากเพื่อนบ้าน เนื่องจาก อีอีซี เป็นแม่เหล็กดึงดูด โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ และโครงการขนส่งมวลชนขนาดรอง ในส่วนของการบินนั้น มีโครงการ “มหานครการบิน” ที่อู่ตะเภา ซึ่งเป็นแผนของรัฐบาลเพื่อพัฒนาพื้นที่ 30 กิโลเมตรโดยรอบของสนามบินอู่ตะเภา สำหรับทางเรือยังมีแนวคิดจะเชื่อม 3 ท่าเรือให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องทางด่วนมีการพัฒนาได้ดีพอสมควรแล้ว เช่น มีทางด่วนถึงพัทยา ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงก็ถึง
ส่วนในด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น เราอยากจะหาความต้องการความต้องการทั้งในประเทศและในต่างประเทศ ในลักษณะที่เรียกว่า การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership-PPP) เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณที่จะต้องใช้ เช่น โครงการรถไฟของปี 2563 เราสามารถประหยัดงบประมาณไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง และถ้ามี PPP จากต่างประเทศด้วย เราจะได้ประโยชน์และจะยกระดับเขตเศรษฐกิจพิเศษของเรา ให้เทียบเท่าต่างประเทศได้”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.TransportInfrastructureAsia.com หรือติดต่อผู้จัดงานโดยตรงที่ aes@aesexhibitions.com หรือโทร (+66) 02 147 1643