วันที่ 30 มิถุนายน 2564 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการเสวนาออนไลน์ เรื่อง “ผลสำเร็จจากการวิจัยและนวัตกรรมเพื่ออนาคตประเทศไทย : Future Thailand” เพื่อนำเสนอผลการวิจัยและสร้างการรับรู้ผลสำเร็จจากการวิจัยเกี่ยวกับประเทศไทยในอนาคต รวมถึงนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ในมิติที่เกี่ยวข้องสู่สาธารณชนในมุมที่น่าสนใจ และเพื่อเป็นเวทีพบปะ แลกเปลี่ยนทัศนะและข้อคิดเห็น เกี่ยวกับทิศทางอนาคตประเทศไทย ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงวิชาการ อันนำไปสู่แนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่าง ๆ และประเทศ โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการเสวนาออนไลน์
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการประเทศไทยในอนาคต (Future Thailand) เป็นแผนงานที่ วช. ได้วางกรอบร่วมกับทางหลายหน่วยงาน ในการวางหลักการที่จะใช้ชุดข้อมูลจากเรื่องการวิจัยและนวัตกรรม มาช่วยฉายภาพอนาคตของประเทศไทย ในภาพมิติต่าง ๆ ในส่วนนี้ วช. มีความคาดหวังว่า ส่วนของการทำงานที่จะฉายภาพในมิติสำคัญ ใน 9 ถึง 10 ด้าน มีการนำชุดข้อมูลที่สำคัญ เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนานโยบายระดับประเทศ และเพื่อที่จะสามารถออกแบบกระบวนการ รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานที่จะนำไปทำมาตรการหรือที่จะนำไปเป็นกลไกต่าง ๆ สำหรับประเทศและภาคประชาชน กรอบของโครงการประเทศไทยในอนาคต (Future Thailand) หลักการสำคัญก็คือ เรื่องของการวางภาพอนาคต ในระยะ 20 ปี โดยมีการแบ่งส่วนของช่วงเวลาออกเป็นทุก 5 ปี เพื่อที่จะได้ชุดข้อมูลให้กับหน่วยงานที่ดูเรื่องกรอบนโยบายระดับประเทศ อย่างเช่น ในส่วนของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือในส่วนภาคนโยบายที่ได้นำประเด็นในชุดข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการออกแบบนโยบาย
ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวต่อว่า วช.ได้วางกรอบในส่วนของการศึกษาไว้ที่ 10 มิติสำคัญ และยังมองทั้งเรื่องโครงสร้างประชากร เรื่องของมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม มิติอัตลักษณ์ความเป็นไทย ทางด้านภาษาไทย มิติด้านการเมือง มิติคนไทย 4.0 และมิติด้านการศึกษา อีกหลายมิติที่คิดว่าจะนำไปเป็นกระบวนการร่วมกันตอบโจทย์การฉายภาพอนาคตประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานวิจัย สถาบันวิจัยชั้นนำที่รวมกัน 10 หน่วยงาน ก็จะมาใช้ภาพฉายของขอบเขตของการทำงานในเชิงของมิติต่าง ๆ ในการออกแบบกระบวนการที่มีความหลากหลายแต่มีจุดร่วมร่วมกัน คือ มองให้เห็นภาพของการที่จะนำชุดข้อมูลมาออกแบบนโยบายในอนาคต ซึ่งขณะนี้ในภาพใหญ่ของการออกแบบนโยบายคงไม่ได้มองเฉพาะในเรื่องเชิงกระบวนการ แต่คงจะมองในเรื่องของชุดข้อมูลร่วมที่จะนำส่งต่อจากทางภาควิจัยโดย วช. แต่ขณะนี้ยังอยู่ในเฟสที่ 1 คาดว่าหลังจากที่จบเฟสที่ 1 แล้ว ในชุดข้อมูลแรกก็จะไปเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนาเรื่อง “ภาพประเทศไทยในมิติของอนาคต : จากกรณีศึกษาสู่มิติการพัฒนา”, เรื่อง “แนวโน้มโลก แนวโน้มประเทศไทย” , เรื่อง “คนไทยในเมืองไทย 4.0”, เรื่อง “อนาคตชีวิตคนเมือง 4.0”, และเรื่อง “สังคมเปราะบางกับ COVID-19” การเสวนาในครั้งนี้ วช. จะรวบรวมเอาองค์ความรู้ต่าง ๆ ไปเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยนำมาออกแบบเป็นนโยบาย หรือมาตรการ ให้เป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น