‘อารียา พรอพเพอร์ตี้’ ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ รุกทำตลาดแนว Art & Music Marketing จับมือสองศิลปินช่างภาพ Leica Thailand Ambassador ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ และ พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ (Add Candid) เปิดตัว Exhibition “Nothing is everything by COMO Bianca X Tul & Add” ครั้งแรกของการแสดงผลงานภาพถ่ายที่ใช้แสง และเงาในการบันทึกเรื่องราวของกาลเวลาจากโครงการ COMO Bianca บ้านสไตล์ Minimal Eco Living ของอารียา พรอพเพอร์ตี้ และต่อยอดสู่ผลงานศิลปะในรูปแบบ NFT อย่างสมบูรณ์แบบ และยังเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวการแสดงผลงานเสียง ASMR โดย สถาปัตย์ ธีรนิตยภาพ (Tum Monotone) ศิลปิน และ Music Producer จาก NO SOUND IN SPACE สะท้อนแนวคิดและแรงบันดาลใจจากแคมเปญ “Nothing is everything” เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 – 10 กรกฎาคมนี้ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 จัดแสดง ณ ห้องสตูดิโอชั้น 4 และวันที่ 5-10 กรกฎาคม 2565 จัดแสดง ณ ห้องผนังโค้ง ชั้น 4 คาดกลยุทธ์ดึงงานศิลปะและดนตรีทำการตลาดจะช่วยเข้าถึงคนรุ่นใหม่และช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านในโครงการได้
นางสาวพัทธมล เลาหพูนรังษี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของการจัดงาน Exhibition ว่า “Nothing is everything by COMO Bianca X Tul & Add” และเปิดตัว ผลงานเสียง ASMR ในครั้งนี้ว่า “การจัด Exhibition ในครั้งนี้เป็นโปรเจกต์ต่อยอดจากแนวคิด แคมเปญ “Nothing is everything” เกิดจากแนวคิดที่ต้องการลดทอนทุกความฟุ่มเฟือย และคงเหลือแต่สิ่งที่จำเป็น เพื่อบอกเล่าความเป็น Minimal ได้อย่างลงตัว โดยเราได้จับมือกับ 2 ช่างภาพชื่อดัง คุณตุลย์ และคุณแอ๊ด ซึ่งทั้งคู่เป็น Leica Thailand Ambassador มาสร้างสรรค์ผลงาน NFT ผ่านการเก็บโมเมนต์ และช่วงเวลาต่าง ๆ ภายใน โครงการ COMO Bianca มาอยู่ในภาพถ่ายรูปแบบ NFT ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพื่อสร้าง Brand Experience ผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ และก้าวสู่ “Lifestyle Property Developer ได้อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังสร้างสรรค์ผลงานเสียง ASMR ภายใต้คอนเซปต์ “Nothing is everything” ที่สื่อถึงความ Minimal Eco-Living ที่อยู่รอบตัว
“การทำโครงการสร้างสรรค์ผลงาน NFT และดนตรีจากภาพ มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เพิ่มขึ้น โดยการทำ NFT เป็นไปตามกระแสเมตาเวิร์สในปัจจุบัน ซึ่งอารียาถือเป็นเจ้าแรก ๆที่ทำ”
นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ Leica Thailand Ambassador กล่าวว่า “Nothing is everything คือกระบวนการภายในที่เราเองรับรู้ได้ ความรู้สึกนั้นคือความพิเศษทำให้ชีวิตมีชีวา และไม่ต้องไปแสวงหาความงามที่อยู่ไกลตัว ดังนั้นวิธีการทางานของผมคือ ก่อนถ่ายภาพผมจะนึกถึง Concept ของบ้านที่เป็น Minimal Eco living ซึ่งนี่คือสิ่งที่คนจะซื้อบ้านหลังนี้จะได้เห็น แค่แสงที่ลอดผ่านพื้นที่ต่างๆ ของบ้าน ความงามก็เกิดขึ้นในทันที เลยคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ วัน”
ด้านพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ หรือ (Add Candid) ช่างภาพมืออาชีพ และ Leica Thailand Ambassador กล่าวว่า “การได้ออกไปถ่ายตามโจทย์มันเหมือนได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง คิดกับตัวเอง จินตนาการไปกับก้าวแต่ละก้าว เรามองแล้วเราสนุกอะไรไปกับมัน สามารถ Capture มองอะไรได้ทุกอย่าง อยู่ที่ว่าจะตีความหมายออกมาอย่างไร ถ้าเรามีเวลามองทุกๆ สิ่งให้เป็นศิลปะ มันก็จะสามารถเป็นได้ สำหรับผมมองว่า ภาพแดดจัดๆ สามารถสร้างมิติบางอย่างได้ เชื่อว่านิทรรศการนี้จะให้มุมมองแปลกใหม่ และอาจทำให้คุณหันกลับไปมองพื้นที่รอบตัวแล้วค้นพบอะไรบ้างอย่างก็เป็นได้”
สถาปัตย์ ธีรนิตยภาพ (Tum Monotone) ศิลปิน และ Music Producer จาก NO SOUND IN SPACE ผู้รังสรรค์ผลงานเสียง ASMR ( Autonomous Sensory Meridian Response) เทรนด์เสียงที่คนยุคใช้ในการบำบัดความรู้สึกของคนฟังให้ผ่อนคลาย กล่าวว่า “Nothing is everything คือทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ถ้าเราค่อยๆ แยกออก ตัดออกจนเหลือแค่สิ่งที่เรารู้สึกว่าจำเป็นกับชีวิต พยายามใช้ชีวิตแบบ Eco Living ถอดทุกอย่างออกไปให้เหลือแค่ ความมินิมอลที่สุด ถ้าเราเหลือแต่ส่วนนั้นจะพบทุกอย่างที่เชื่อมโยงกับชีวิตเราได้ พาร์ทที่เป็นเครื่องดนตรีจะเลือกเครื่องดนตรีที่ฟังง่าย แต่มีความเท่ และลักษณะของการเรียบเรียงจะเน้นความมินิมอล ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เนื่องจาก ASMR ในแง่ของเสียงมันคือการดึงเอากิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้เกิดเสียงแต่เราอาจมองข้ามไป เช่น เสียงเปิดหนังสือ เสียงผลไม้หล่น นกร้อง บดกาแฟ ปั่นน้ำผลไม้ เป็นการเอาเสียงจากชีวิตประจำวัน ความรื่นรมย์ และบรรยากาศที่เกิดขึ้นมาสอดประสานกับเสียงดนตรี และแบ่งเป็นสองเวอร์ชั่นคือ Day ช่วงกลางวันฟังสบายๆ กับ Night สำหรับฟังก่อนนอนเพื่อช่วยให้คุณนอนหลับง่ายและฝันดีตลอดทั้งคืน”
ด้านนางสาวพัทธมล กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดหวังว่า โครงการ NFT และดนตรีจากภาพ นี้จะได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นและจะกระตุ้นยอดขายบ้านในโครงการได้ โดยคนกลุ่มนี้อยู่ในช่วงอายุปลาย 20ปีถึงปลาย 30 ปี เป็นคนที่เริ่มทำงานและผู้เริ่มคิดจะสร้างครอบครัว
“จากข้อมูลการศึกษาของอารียาพบว่า คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจซื้อบ้านเพิ่มขึ้น มองหาบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และเทรนด์ Minimal Eco living ที่เป็นความเรียบง่าย แบบมีสไตล์ ไม่ต้องหลังใหญ่ เป็นที่ต้องการ ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เองก็ทำให้คนรุ่นใหม่อยากมีบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งบ้านสไตล์ Minimal Eco living มีราคาอยู่ที่ 3-6 ล้านบาท ที่ผ่านมาการเปิดตัวเฟสแรก COMO Bianca ใกล้เมกะบางนาในปี 2563 ประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้ขยายเฟส 2 เป็น 109 ยูนิต หลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายคาดว่า คนจะมีกำลังกลับมามองหาบ้านเพิ่มขึ้น และทางอารียาจะมีการปรับแผนการตลาดแบบเข้าถึงคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น เข้าไปในโลกของเขา ศิลปิน ทุกไลฟ์สไตล์ที่เขาชื่นชอบ”
ทั้งนี้ผลงานจากศิลปินที่สร้างสรรค์ในโครงการนี้ทั้งหมดมีจำนวน 40 ภาพ แบ่งเป็นผลงาน NFT 14 ภาพ ส่วนอีก 26 ภาพได่นำมาจัดแสดงในงาน Exhibition ครั้งนี้ โดยรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายนำไปร่วมบริจาคให้แก่มูลนิธิโลกสีเขียว
และหากสนใจภาพ COMO Bianca NFT สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://opensea.io/collection/areeyacomobianca-collection และสามารถรับฟังเพลง ASMR ทั้งเวอร์ชั่น DAY และ NIGHT ที่ผสานเข้ากับเสียงดนตรีอย่างลงตัว ได้ที่ https://bit.ly/3NTLypG
เชิญชวนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการภาพถ่าย “Nothing is everything by COMO Bianca X Tul & Add” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 1-10 กรกฎาคม นี้ เวลา 10.00 – 20.00 น. (หยุดวันจันทร์) ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สามารถติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.areeya.co.th, Facebook : Areeya Home , Line : Areeya Gallery หรือคลิก https://bit.ly/3OI5GLO