พาณิชย์ตรวจเข้มราคาสินค้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้ทางกรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์การค้าและไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา ซึ่งจากการติดตามการจำหน่ายสินค้าในตลาดสดที่ตลาดปากน้ำ โดยมีเจ้าของตลาดร่วมตรวจสอบด้วย พบว่า ในปีนี้ประชาชนเริ่มเข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ราคาสินค้ายังคงทรงตัวถือว่าสินค้าต่างๆ มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชนและมีการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้อาจมีการซื้อขายที่จำนวนน้อยลงเล็กน้อย อาจเนื่องจากเป็นการไปรับประทานนอกบ้าน ซื้อไปทำรับประทานเองน้อยลง และอาจจะเป็นเรื่องของการออกไปท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นช่วงหยุดหลายวัน
สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ในเรื่องของสินค้าเกษตรต่างๆ ถือว่ายังคงทรงตัวบางตัวมีขยับขึ้นบ้างเล็กน้อยจากสถานการณ์ภัยแล้งและจากสถานการณ์อากาศที่ร้อนจัด เช่น พวกผักแต่ราคายังคงใกล้เคียงแต่อาจปรับขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1- 2 บาท แต่ไม่เกิน 5 บาท และมีบางรายการที่ปรับลดลงด้วยซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด แต่อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปีนี้ถือว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาสินค้าต่างๆ ไม่มีการปรับแพงขึ้นมากแต่อย่างใด
สำหรับราคาสินค้าเกษตรในภาพรวม ข้าวเปลือกตอนนี้ถือว่าอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงอยู่โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 14,850 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกของมะลินอกพื้นที่ อยู่ที่ 14,600 บาทต่อตัน ถือว่าสูงกว่าปีที่แล้วปีที่แล้วอยู่ที่ 13,049 บาทต่อตัน สำหรับข้าวเปลือกปทุมธานี อยู่ที่ 14,800 ต่อตัน เท่ากับ เดือนที่ผ่านมา แต่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ปีที่แล้วอยู่ที่ 10,963 ต่อตัน ถือว่าเป็นปีทองของชาวนา สำหรับข้าวเปลือกเจ้า ตอนนี้กำลังเก็บเกี่ยวกันราคาอยู่ที่ 11,500 บาทต่อตันถือว่าเป็นราคาที่ดีปีที่แล้วอยู่ที่ 9,961 บาทต่อตัน สำหรับสำหรับข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวอยู่ที่ 13,300 บาทต่อตัน ปรับสูงกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 12,084 บาทต่อตัน ซึ่งในภาพรวมของข้าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับมันสำปะหลังในภาพรวมอยู่ที่ 3.20 – 3.70 บาท ถือว่าราคายังดีอยู่ แต่อาจปรับลดลดลงมาเล็กน้อยเนื่องจากเปอร์เซ็นต์แป้ง ซึ่งต้องขอฝากชาวไร่มันเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ได้ครบอายุและในเรื่องของการตัดเหง้าเอาดินออกซึ่งถ้าทำมันคุณภาพดีก็จะได้ราคาที่ดีขึ้นสำหรับราคาข้าวโพด ยังอยู่ในเกณฑ์สูงเฉลี่ยที่ 9.53 บาท สำหรับปาล์มน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 5.45 บาท ถึง 5 บาท สูงสุดอยู่ที่ 5.90 บาท อาจจะปรับลดลงเล็กน้อยตามสถานการณ์และขอฝากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มสามารถติดตามได้ว่าโรงสกัดตรงไหนปิดอย่างไรสามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมการค้าภายในเพื่อจะได้ตรวจสอบว่าลานเทหรือโรงสกัดที่ไหนเปิดปิดอย่างไรจะได้ไม่เสียเวลาและสำหรับในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์สงกรานต์เราได้มีการประสานกับตัวแทนของชาวไร่ปาล์มให้ทยอยในการตัดตามไปจำหน่ายเพื่อจะได้ไม่ให้ผลปาล์มเสียหายและได้ราคาที่ดีด้วยซึ่งปีนี้ถือว่าปาล์มได้ราคาดี
สำหรับเนื้อหมูในภาพรวม ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 124.94 บาท ราคาขยับขึ้นมาเล็กน้อย ถือเป็นกำลังใจให้กับผู้เลี้ยงหมู และขอรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ช่วยรับประทานเนื้อหมูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ผู้เลี้ยงพยายามเพิ่มปริมาณหมูเข้ามาในระบบเพื่อแก้ไขในปัญหาไวรัส ASF แต่ตอนนี้ถือว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตรอยู่ที่ 45 บาทและบางที่มีการจัดโปรโมชั่น อยู่ที่ 41 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สอดคล้อง ซึ่งตรงนี้เราจะมีการพูดคุยกับทางสมาคมโรงสกัด โรงกลั่นเป็นประจำเพื่อติดตามสถานการณ์ และตอนนี้เองในเรื่องของปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในแทงก์ที่มีมิเตอร์วัดอยู่ที่ประมาณ 220,000 ตัน เพราะฉะนั้นยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจและทำให้ราคาปาล์มเป็นไปได้ดี สำหรับราคาไข่ไก่ คละ เฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 บาทต่อฟอง ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 อยู่ที่ 3.74 บาทต่อฟอง ถือว่าราคาทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 3.72 บาทต่อฟอง สำหรับราคาปลา ราคาทรงตัวกับสัปดาห์ที่ผ่านมาและราคาทรงตัวกับเดือนที่ผ่านมา สำหรับปลานิล ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75 บาท/กก. ปลาทับทิม อยู่ที่ 104 บาท /กก. กุ้งขาว 70 ตัว อยู่ที่ 186.50 บาท/กก. ส่วนที่ตลาดปากน้ำราคาสินค้าทะเลถือว่าค่อนข้างถูก ถ้าอยากจะทานเมนูทะเลก็ขอให้มาเลือกซื้อที่ตลาดแห่งนี้ได้แล้วมาไหว้พระและเยี่ยมชมตลาดต้องชมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับราคาผักปรับขึ้นลงตามสถานการณ์แต่ส่วนใหญ่ถือว่าราคาทรงตัว อาจมีปรับขึ้นบ้างเล็กน้อยและบางตัวมีการปรับลงด้วย เช่น ผักบุ้งจีนมีราคาปรับลดลงมา และบางตัวมีการปรับขึ้นบ้าง 1-2 บาท
สำหรับสถานการณ์ในการบริโภคอาจจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาและมีกำลังซื้อเข้ามาอาจจะลดลงไปจากปีที่แล้วบ้างเล็กน้อย แต่ถือว่ายังอยู่ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ก็ขอฝากสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ขอฝากพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ขอให้เดินทางด้วยความระมัดระวังและหากแวะตรงไหนซื้อสินค้าและพบว่าไม่มีการปิดป้ายแสดงราคา สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และขอเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าทุกท่านต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาทและหากโอกาสปรับขึ้นราคามีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าหากตรวจพบจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
