สอวช. ร่วมเวที Earth Jump 2025 ถกประเด็นเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สอวช. ร่วมเวที Earth Jump 2025 ถกประเด็นเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนะเอกชนจับมือ SME ขอทุนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ

ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมเสวนาในประเด็น Climate Tech Integration: Accelerate the future ผสานพลัง Climate Tech เร่งเครื่องสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายในงาน EARTH JUMP 2025: Transition Thru Turbulence จัดโดย ธนาคารกสิกรไทย โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพธุรกิจและประชาชนสู่แนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
ดร.สุรชัย กล่าวว่า จากการได้เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมในเวทีเจรจา การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เริ่มเห็นความตื่นตัวในประเด็นเรื่องโลกร้อนมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่ได้รับความสนใจ จนในปัจจุบันที่ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และมองว่าทุกเทคโนโลยีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ Climate Tech ทั้งสิ้น ซึ่งในส่วนของ สอวช. มีบทบาทในการทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) หนึ่งในงานสำคัญที่ สอวช. ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนอย่างชัดเจนคือการสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก 10 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการนำเอานวัตกรรมเข้ามาช่วย โดยมีการทำงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีเป้าหมายร่วมกัน

นอกจากนี้ สอวช. ยังเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (National Designated Entity: NDE Thailand) ภายใต้กลไกเทคโนโลยี (Technology Mechanism) กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ทำหน้าที่เชื่อมโยงนานาชาติในการดึงเทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาในประเทศไทย ตัวอย่างเรื่องที่ สอวช. ศึกษาและขับเคลื่อนอยู่ เช่น ไฮโดรเจน การดักจับคาร์บอน การใช้ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) เมืองต้นแบบที่นำไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ “สระบุรีแซนด์บ็อกซ์” เป็นต้น โดย สอวช. ให้ความสำคัญทั้งในมุมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation)


ในมุมความเชื่อมโยง Climate Tech กับกลุ่ม SME ดร.สุรชัย มองว่า ปัจจุบันมาตรการของโลกเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงมีหลักความรับผิดชอบร่วมกันแต่แตกต่างกัน (Common But Differentiated Responsibilities: CBDR) ในการแบ่งกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่างกัน ส่งผลให้มีมาตรการทางการค้าที่ผนวกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ามา ซึ่งจะส่งผลไปยังห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าของกลุ่ม SME ที่จะต้องคำนึงถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างกระบวนการผลิต อีกทั้งยังต้องมีหลักการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่น่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากต่างชาติด้วย

“สำหรับทิศทางที่ประเทศไทยจะเดินต่อไป เรามีแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่วางไว้ในระยะ 5 ปี และระยะยาว เพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ แต่ขณะเดียวกันเรายังต้องการเทคโนโลยีอื่นที่เข้ามาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงอยากกระตุ้นให้ภาคเอกชนขนาดใหญ่ร่วมกับ SME หรือบริษัทขนาดกลางในการลงทุนทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ผ่านการขอทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) ที่เป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการปรับตัวและบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เราสามารถใช้งบประมาณส่วนนี้มาลงทุนสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศได้” ดร.สุรชัย กล่าวทิ้งท้าย

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *