35 ปี สแกนเนีย ในประเทศไทยกับผู้นำฝ่ายขายหญิงคนใหม่ พร้อมตอบโจทย์ลูกค้า เล็งขยายธุรกิจรถบรรทุก รถโดยสาร
นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้มากด้วยความสามารถ ประสบการณ์สายยานยนต์ และวิสัยทัศน์ที่สแกนเนียมองหา ขึ้นรับหน้าที่ผู้นำฝ่ายขายท่ามกลางยุคโควิด-19 เพื่อหาทางตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยให้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในกลุ่มรถรถบรรทุก และรถโดยสาร พร้อมมองยอดขายครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่อง
นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัดคือผู้หญิงมากความสามารถที่อยู่ในแวดวงธุรกิจยานยนต์มานานกว่า 15 ปี และมีความหลงใหลในศิลปะการขาย แถมยังมีคุณสมบัติตรงตามที่สแกนเนียมองหา ซึ่งก่อนจะมารับตำแหน่งนี้ เธอทำหน้าที่ผู้จัดการในส่วนบริการทางการเงินให้กับ บริษัท สแกนเนีย สยาม ลีสซิ่ง จำกัด
“ดิฉันจบจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับสายการบินแห่งหนึ่ง ผ่านไปหลายปี รู้สึกตัวเองต้องการความท้าทายใหม่ๆ จึงย้ายมาทำเกี่ยวกับการขายให้กับบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่ง และค้นพบว่าตัวเองรักงานขาย งานที่ต้องพบเจอผู้คนมากมาย งานที่ต้องทำความเข้าใจ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ถูกต้อง งานที่ต้องพัฒนาตัวเองให้ทันทุกความท้าทายที่เข้ามาไม่ซ้ำในแต่ละวัน เมื่อรู้ตัว ดิฉันก็ตามหาความท้าทายใหม่ที่มากขึ้นไปอีกขึ้น ตอนนั้นเห็นโอกาสในธุรกิจรถขนาดใหญ่ พอดีกับสแกนเนีย สยาม ลีสซิ่ง เปิดรับอยู่ในตอนนั้น เลยเริ่มเข้ามาในธุรกิจนี้ และเมื่อปีที่ผ่านมา สแกนเนียมีการปรับผังองค์กรให้มีการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อบริการลูกค้าให้ดีขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากฝ่ายขายก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการปฏิบัติการงานขายนี้ จะเป็นการรวมการขายกับบริการทางการเงิน หรือไฟแนนซ์ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดิฉันได้ทำงานกับสแกนเนีย สยาม ลีสซิ่ง อยู่แล้ว จึงคว้าโอกาสเข้ามายืนในจุดนี้ค่ะ” นางสาวดวงใจกล่าว
นอกจากนี้การที่เป็นผู้หญิงแต่ได้ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งนี้นั้น คุณดวงใจมองว่า บริษัท สแกนเนียเป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าจะเชื้อชาติ อายุ วัฒนธรรมใดๆ ก็สามารถทำงานในตำแหน่งที่สำคัญได้ โดยในปัจจุบัน ผู้บริหารระดับผู้จัดการขึ้นไปของสแกนเนียในประเทศไทยเองก็มีชายหญิงในจำนวนเท่าๆ กัน
ในส่วนของการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฝ่ายขาย นางสาวดวงใจ กล่าวว่า ทางสแกนเนียทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้นด้วยบริการแบบ One Stop Service ที่มีระบบงานขาย พร้อมการจัดไฟแนนซ์ และประกันภัยที่ครบจบในที่เดียว ทำให้ลูกค้าคนไทยที่สนใจทั้งรถบรรทุก และรถโดยสารสามารถเป็นเจ้าของรถสแกนเนียได้ง่ายขึ้น โดยในส่วนของกลยุทธ์การตลาดในครึ่งปีหลังของรถบรรทุกหัวลาก และรถบัสของสแกนเนีย จะมีการปรับแผนเพื่อสอดรับกับความต้องการ และรูปแบบการทำงานของลูกค้าให้มากที่สุด เรียกว่า “Tailor-Made Solution”
โดยปัจจุบันถ้าพูดถึงกลุ่มลูกค้าหลักในตลาดประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจขนส่งน้ำมัน 2. กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งลูกค้าสองกลุ่มแรกนี้กำลังมองหารถขนส่งที่มีความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานยุโรป ซึ่งสแกนเนียคือหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นที่นิยมอย่างมากในบรรดาผู้ประกอบการ 3. กลุ่มขนส่งทั่วไปหรือตู้คอนเทนเนอร์ และ 4. กลุ่มรถห้องเย็น หรือตู้ควบคุมอุณหภูมิ เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณความต้องการสินค้าอุปโภค บริโภค จำนวนมากทั้งในประเทศ และขนส่งระยะไกลข้ามออกไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ส่งผลไม้ข้ามชายแดนไทย ลาว และประเทศจีน
นอกจากนี้ในโอกาสพิเศษที่ สแกนเนีย สยาม ฉลองครบรอบ 35 ปีในประเทศไทย จึงได้มีการออกรถรุ่นพิเศษ “Yak Edition” เพื่อตอกย้ำแนวทางการขนส่งอย่างยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า (Sustainable Transport – Now and Beyond) แสดงความเป็นผู้นำในตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ ด้วยที่สุดยอดงานวิศวกรรม ที่มาพร้อมความหมายที่เป็นศิริมงคล และมีความเป็นเอกลักษณ์ไทย โดยรุ่นพิเศษนี้ได้รับความสนใจ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า
สำหรับแผนการขายในครึ่งปีหลัง นางสาวดวงใจ กล่าวว่า “ในปีนี้ธุรกิจรถโดยสารต้องเผชิญกับผลกระทบจากโควิดอย่างรุนแรง สแกนเนียพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเคียงข้างลูกค้ากลุ่มรถโดยสารของเราให้ฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน และพร้อมกลับมายืนอย่างเข้มแข็งได้หลังจากนี้ สำหรับกลุ่มรถบรรทุก รถหัวลาก เรามองว่าจะมี 4 – 5 ธุรกิจที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรู้ว่าคาแรคเตอร์ของรถสแกนเนียเป็นเกรดพรีเมียมโดยมีสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใครในตลาด ซึ่งเวลาที่ไปติดต่อกับลูกค้าเราก็ต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงข้อได้เปรียบของรถเรา เช่น สมรรถนะที่ไปได้ทุกเส้นทาง คงทน ประหยัดน้ำมันมากขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างน้อย 5% พร้อมทั้งมีบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ และการบำรุงรักษารถ ที่เรียกว่า Flexible Maintenance โดยระบบจะช่วยประเมินการใช้งานของรถเพื่อเช็คระยะการซ่อมบำรุงที่จำเป็น นี่คือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกังวล เรามุ่งเน้นนโยบาย “Sustainable transportation” ก็คือการเติบโตอย่างยั่งยืนในเรื่องขนส่ง ซึ่งนัยยะสำคัญคือ ให้ลูกค้า เติบโต มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปพร้อมๆ กับเรา ด้วย “Solution Sale” ที่ทีมขายของเราจะดูแลลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการขาย อนุมัติสินเชื่อ รวมถึงประกันภัย เมื่อลูกค้าได้รับรถก็จะมีความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย และประกันภัยที่เราเองมีพร้อมมาสนับสนุนลูกค้าอย่างชัดเจน ทำให้เรามั่นใจว่ายอดขายปลายปีนี้ของเราจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัดกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับในเรื่องของการส่งมอบรถให้กับลูกค้านั้น ทางสแกนเนีย สยาม มีทีม Business Support ที่จะมาคุยกับทางฝ่ายขายถึงความต้องการของรถในแต่ละเดือน หรือในแต่ละไตรมาสว่าเป็นอย่างไร เพื่อวางแผนบริหารจัดการสั่งรถล่วงหน้า ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลใจเรื่องการส่งมอบหากซื้อรถกับทางสแกนเนีย
ทั้งนี้Scania เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นการขนส่ง ร่วมกับพันธมิตร และลูกค้าผลักดันการเปลี่ยนไปสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน Scania ก่อตั้งขึ้นในปี พ. ศ. 2434 มีสำนักงานในกว่า 100 ประเทศ และมีพนักงาน 51,000 คน ทั่วโลก มีศูนย์วิจัย และพัฒนาในสวีเดน โดยมีสาขาในบราซิล และอินเดีย การผลิตจะเกิดขึ้นในยุโรปละตินอเมริกา และเอเชีย พร้อมศูนย์การผลิตระดับภูมิภาคในแอฟริกาเอเชีย และยูเรเซีย Scania เป็นส่วนหนึ่งของ TRATON SE สำหรับการเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติม: www.scania.com
เกี่ยวกับ Scania ในประเทศไทย
ในประเทศไทย Scania เริ่มต้นด้วยการนำเข้ารถบรรทุกเพื่อจัดหน่าย โดยบริษัท โฟฟร้อนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี
พ. ศ. 2529 และในปี 2543 บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัท ในเครือของ Scania ประเทศสวีเดน ในปี 2552 ได้ลงทุนในสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ ดำเนินงานเป็นสำนักงานขายและศูนย์บริการหลังการขายที่ครบวงจร ขณะนี้เรามี 11 สาขาในประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่: www.scania.co.th