เครือข่ายป้องกันเหล้าฯ บุกสภาฯยื่น 1 แสนชื่อเสนอประธานสภาฯหนุนแก้ กม.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วอนเพิ่มกฎเหล็กคุมโฆษณา เพิ่มโทษความรับผิดชอบผู้ขาย พร้อมเปิดช่องให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ภปค.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ,เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ,สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ,เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา ,องค์กรด้านเด็กและเยาวชน ,แอลกอฮอล์วอช เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และตัวแทนสมาชิก ภปค.กว่า 30 คน นำรายชื่อประชาชนกว่า 100,000 รายชื่อร่วมเสนอร่าง แก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เข้ายื่นถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับหนังสือ
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า สาระสำคัญของ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับของ ภปค.ยึดเจตนารมณ์เดิมของกฎหมายไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ปกป้องเด็กและเยาวชน การคุ้มครองสุขภาพของประชาชนและการลดผลกระทบทางสังคม เพิ่มกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดต่างๆให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ห้ามการใช้ตราเสมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาโฆษณา ควบคุมการทำกิจกรรม CSR ของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยให้บริจาคได้แต่ห้ามนำมาโฆษณา ปรับลดโทษในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับผู้ดื่ม เพิ่มสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งกับร้านค้าหรือผู้ที่ขายให้คนเมาครองสติไม่ได้หรือขายให้เด็กและไปเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น จะเห็นว่าร่างภาคประชาชนแตกต่างจากร่างของกลุ่มธุรกิจที่มุ่งส่งเสริมมากกว่าควบคุม ให้ยกเลิกมาตรการสำคัญๆ เช่น ยกเลิกการควบคุมการโฆษณาเหลือแค่ห้ามโฆษณาอันเป็นเท็จ ให้ขายได้ 24 ชั่วโมง ให้ขายในมหาวิทยาลัยได้ ให้คนของธุรกิจน้ำเมาเข้ามาอยู่ในกลไกคณะกรรมการนโยบายระดับชาติ เป็นต้น
ด้าน นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ใช้มานานกว่า 13 ปี ทำให้ข้อกฎหมายบางอย่างตามไม่ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการใช้สื่อสมัยใหม่ การมีผู้ผลิตรายใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้ารายใหญ่ยังมีการทำผิด แต่กฎหมายเอื้อมไม่ถึง ทั้งนี้ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการยกร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขออกมาในนามรัฐบาล ขณะเดียวกันฝั่งภาคธุรกิจที่เสนอร่างแก้ไขเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน แต่ฉบับของฝั่งธุรกิจพบว่ามีการปรับเนื้อหาที่น่ากังวลว่าเป็นการส่งเสริมการขาย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าการควบคุม พร้อมระบุกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายควบคุมเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่ง107,971 รายชื่อ ไปตรวจสอบว่าเป็นรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะนำเสนอต่อประธานรัฐสภาให้พิจารณาว่าร่างพ.ร.บ.นี้เข้าข่ายกฎหมายที่ประชาชนลงชื่อถูกต้องตามหลักการหรือไม่ ถ้าร่างฉบับนี้ผ่านการพิจารณารับหลักการ ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินจะเข้าสู่ระบบการรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน หลังจากผ่านทุกขั้นตอนแล้วจะส่งให้นายกรัฐมนตรีเซ็นรับรอง และเสนอประธานสภาบรรจุในระเบียบวาระต่อไป ทั้งนี้ฝากไปยังประชาชน ขอให้ออกมาแสดงความคิดเห็นตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาชน ได้แต่งกายสะท้อนผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหลายมิติ ทั้งอุบัติเหตุ ความรุนแรงในครอบครัว ทะเลาะวิวาท อาชญากรรม ผู้ป่วย โดยมีการชูป้ายข้อความ เช่น เมาแล้วขับทำคนตาย19,000 บาด เจ็บนับล้าน พิการ 60,000 ต่อ ปี เด็กในสถานพินิจกว่าร้อยละ 40 ก่อคดีภายใน 5 ชั่วโมงหลังดื่ม และข่าวความรุนแรงในครอบครัว มีสุราเกี่ยวข้อง กว่าร้อยละ 20 เป็นต้น