อพวช. ขานรับนโยบาย รมว.อว. เพิ่มโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะแห่งอนาคต พร้อมนำความรู้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ มาใช้เป็นฐานสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนประเทศ เตรียมพร้อมจัดงานไฮบริดอีเว้นท์ “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” ผนึกกำลัง 7 ประเทศ 78 หน่วยงานพันธมิตร ร่วมโชว์ผลงานและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เปิดโลกแห่งการเรียนรู้วิทย์ยุคใหม่ใน 2 ช่องทาง ไร้ข้อจำกัดเวลาและสถานที่ด้วย Virtual Exhibition ในโลกออนไลน์ (Online) ผ่าน www.thailandnstfair.com ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 64 เป็นต้นไป
และสัมผัสเทคโนโลยีและนวัตกรรมจริงในแบบออนกราวด์ (On ground) ระหว่างวันที่ 9-19 พฤศจิกายน 2564 ณ อาคาร 9-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ศาสตราจารย์พิเศษ ตร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2564 กล่าวว่าปัจจุบันคือยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เราพบการแข่งขันที่สูงขึ้นและจำเป็นต้องปรับตัวอยู่เสมอ ดังนั้น การเรียนรู้ยุคใหม่ ผู้เรียนต้องก้าวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง ต้องมีทักษะแห่งอนาคต เพื่อให้พร้อมรับมือโลกในศตวรรษที่ 21 และสิ่งที่ อว. กำลังดำเนินการอยู่คือ การทำให้เยาวชน รวมทั้งนักศึกษา พัฒนาความรู้ไปทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องทำวิจัยเป็น คิดอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุมีผล มองรอบด้าน โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นพื้นฐาน
สาเหตุที่กล่าวเช่นนี้เพราะภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย เราจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยกระทรวง อว. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานแนวหน้า จะต้องทำให้ได้ภายในอีก 10 ปีนับจากนี้ และการที่เราจะดีดตัวเองออกจากกับดักของการเป็นประเทศรายได้ปานกลางได้นั้น สามารถทำได้ผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจสองขา ได้แก่ ขาแรกที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และขาที่สองคือเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ต่อมาคือเรื่องพัฒนาการศึกษา เพิ่มทักษะด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชนไทยให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่ง อว. ให้ความสำคัญกับการให้โอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะการศึกษาคือการสร้างคนและสร้างโอกาสและเยาวชนไทยทุกคนถือเป็นทรัพยากรมนุษย์และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้