วช. ร่วมกับ มจธ. หนุนการทำงานเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ มอบเครื่องตรวจรอยนิ้วมือแฝง
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/1643447913422_800x405.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/1643447915910_640x413.jpg)
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มอบเครื่องตรวจรอยนิ้วมือแฝงและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เขมฤทัย ถามะพัฒน์ หัวหน้าโครงการฯ ร่วมกันมอบฯ โดยมี พลตำรวจโท วีระ จิระวีระ ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เป็นผู้รับมอบเครื่องตรวจรอยนิ้วมือแฝงในครั้งนี้
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_34342.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_34951.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_34527.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_34768.jpg)
เครื่องตรวจรอยนิ้วมือแฝงนี้เป็นผลผลิตของโครงการนวัตกรรมเครื่องตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงสำหรับงานพิสูจน์หลักฐานอาชญากรรม ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เขมฤทัย ถามะพัฒน์ แห่งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย ซึ่งเครื่องต้นแบบสำหรับตรวจหารอยนิ้วมือแฝงสามารถช่วยให้ส่วนของรอยลายนิ้วมือแฝงที่หลงเหลืออยู่บนปลอกกระสุนปืนปรากฏชัดเจนขึ้น ภายในเวลาเพียง 20 วินาที
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_33290.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/01/IMG_20220129_33561.jpg)
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเครื่องต้นแบบเพื่อสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการและในสถานที่เกิดเหตุ ซึ่ง วช. ได้ส่งมอบเครื่องตรวจหารอยนิ้วมือแฝงที่พัฒนาขึ้นไปให้กับศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ที่มีความรับผิดชอบหลักครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ไว้ใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจับกุมผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ก่ออาชญากรรมในคดีต่าง ๆ ให้มารับโทษได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้มีการจัดการอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับตัวแทนเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานของศูนย์พิสูจน์หลักฐานต่าง ๆ ในประเทศไทย
อีกด้วย