บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ คิดค้นนวัตกรรมสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อจัดการและสร้างคุณค่าขยะอาหาร อำนวยความสะดวกการลงมือปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและใช้ทรัพยากรคุ้มค่าในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรมขนาดเล็ก สร้างอาหารมั่นคงและสมดุลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โครงการ Shaper in Action : Waste Hero Awards จัดเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในงาน “Thailand Sustainability Expo 2021” (TSX) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยซีพีเอฟ ร่วมเป็นกรรมการตัดสิน มี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เป็นผู้มอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศ ที่คิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาธุรกิจรักษ์โลก ช่วยจัดการขยะอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมผลักดันสังคมสู่การลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้มีการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อจัดการและเพิ่มมูลค่าขยะอาหาร (Food Waste management and Value-added)
ปีนี้มี SMEs รุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการบริโภคอย่างยั่งยืน สนใจส่งผลงานเข้าประกวดมากกว่า 50 ผลงาน โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ทีม Innowaste ผลิตเครื่องกำจัดขยะมูลฝอยอินทรีย์ในครัวเรือนและร้านค้าขนาดเล็ก ตัดขยะให้เป็นชิ้นเล็ก กวนคลุกเคล้ากับจุลินทรีย์ให้เข้ากัน สู่กระบวนการย่อยสลายเป็นปุ๋ยไร้กลิ่น ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ช่วยประหยัดพลังงาน
และรองชนะเลิศอีก 3 ราย ประกอบด้วย ทีม Food Loss Food Waste Thailand พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับชุมชนผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ช่วยให้ขายผลผลิต สอนชุมชนแยกขยะ จัดการบริหารขยะอินทรีย์ที่ต้นทาง ตามความต้องการของชุมชน ทีม Laika ผลิตขนมสุนัขคุณภาพพรีเมี่ยม โดยใช้โปรตีนจากแมลงเป็นวัตถุดิบหลักและใช้ผักออร์แกนิกคุณภาพดีที่กำลังจะถูกคัดทิ้งจากโรงงานมาเป็นอาหารเลี้ยงแมลงในฟาร์ม ลดปัญหาขยะอาหารส่วนเกิน และทีม Oklin Thailand ผลงานเครื่องกำจัดเศษขยะอาหารเป็นปุ๋ยภายใน 24 ชั่วโมง ผ่านกระบวนการธรรมชาติโดยไม่ต้องเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ ไม่ต้องเปลี่ยนฟิวเตอร์หรือใช้ตัวกรอง
สำหรับโครงการ Shaper in Action : Waste Hero Awards จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาความยั่งยืนในประเทศไทย ตลอดจนการสร้างคุณค่าให้กับสังคมเชื่อมโยงสู่ระดับภูมิภาคได้ และยังเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับ 1 ใน 9 ความมุ่งมั่น ตามแนวทางสร้างคุณค่า ปราศจากขยะ (Waste to Value) ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ของ ซีพีเอฟ “CPF 2030 Sustainability in Action” ซึ่งมีเป้าหมายในการลดขยะอาหารในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นศูนย์ รวมถึงจัดการบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุอาหารให้นำกลับมาใช้ซ้ำ นำมาใช้ใหม่ หรือย่อยสลายได้ 100% ในปี 2573 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นบริหารจัดการขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบตั้งแต่ต้นทางการผลิต การจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ มีเอกสารรับรองตรวจสอบกลับถึงแหล่งที่มาได้ นำเทคโนโลยีทันสมัยทั้งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent : AI) และ Internet of Things (IoT) ช่วยการติดตาม วิเคราะห์และประเมินผลที่แม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตลดการสูญเสียและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2573
เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว ซีพีเอฟ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและความร่วมมือในระดับบุคคล เช่น โครงการ “กินเกลี้ยงเลี้ยงโลก” รณรงค์ให้พนักงานและครอบครัวกินอาหารอย่างรู้คุณค่าไม่เหลือทิ้ง โครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก” เพื่อนำอาหารส่วนเกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการไปปรุงเป็นอาหารมื้อพิเศษให้กับกลุ่มเปราะบาง สร้างคุณค่าและการมีส่วนร่วมของสังคม ลดการปล่อยก๊าซเรือนจากขยะอาหารและการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาจัดการอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการ รวมถึงจัดทำโครงการ “กล้าจากป่า พนาในเมือง” ซึ่งเป็นโครงการ 5 ปี (2564-2568) ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในครัวเรือน สถานประกอบการ พื้นที่สาธารณะและพื้นที่ป่า มีเป้าหมายการปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น ภายในปี 2568 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและปริมาณอ๊อกซิเจนในอากาศ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์
ซีพีเอฟ บูรณาการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Sustainable Goals : SDGs) ทั้ง 17 ข้อ มาดำเนินการให้สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อเดินหน้าเป้าหมายการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมลดขยะอาหารและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีผลต่อความบริโภคและความเป็นอยู่ของประชากรโลกในอนาคต./